|
|
การวัดผลและการสำเร็จการศึกษา
1. มหาวิทยาลัยจะจัดให้มีการวัดผลสำหรับกระบวนวิชาที่นักศึกษาลงทะเบียนไว้
เมื่อสิ้นภาคการศึกษาหนึ่ง โดยจัดให้มีการสอบไล่ในแต่ละกระบวนวิชา
บางกระบวนวิชาอาจไม่มีการสอบไล่ตอนปลายภาคการศึกษาก็ได้แต่อาจใช้วิธี
การวัดผลและประเมินผลในลักษณะอื่นซึ่งมหาวิทยาลัยจะแจ้งให้ทราบไว้ใน
ประกาศกระบวนวิชาที่เปิดสอน
2. การวัดและการประเมินผลของแต่ละกระบวนวิชาใช้อักษรระดับคะแนน
เว้นแต่กระบวนวิชาที่กำหนดให้วัดและประเมินผลด้วยอักษร S และ U
3. อักษรและความหมายของการวัด และประเมินผลในแต่ละกระบวนวิชา กำหนดดังนี้
A หมายถึง ดีเยี่ยม (Excellent )
A- หมายถึง เกือบดีเยี่ยม (Almost Excellent )
B+ หมายถึง ดีมาก (Very Good )
B หมายถึง ดี (Good )
B- หมายถึง ดีพอใช้ (Fairly Good )
C+ หมายถึง เกือบดี (Almost Good )
C หมายถึง พอใช้ (Fair )
C- หมายถึง เกือบพอใช้ (Almost Fair )
D หมายถึง อ่อน (Poor )
F หมายถึง ตก (Failure )
S หมายถึง เป็นที่พอใจ (Satisfactory )
U หมายถึง ไม่เป็นที่พอใจ (Unsatisfactory )
I หมายถึง การวัดผลยังไม่สมบูรณ์ (Incomplete )
P หมายถึง การเรียนการสอนยังไม่สิ้นสุด (In Progress )
T หมายถึง วิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าแบบอิสระยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
(Thesis in Progress )
AU หมายถึง ผู้เข้าร่วมศึกษา (Auditor )
X หมายถึง ยังไม่ได้รับผล (No Report )
W หมายถึง การบอกเลิกกระบวนวิชา (Withdrawal )
4. ค่าอักษรระดับคะแนน กำหนดดังนี้อักษรระดับคะแนน แต้มระดับคะแนนต่อหน่วยกิต
A = 4.00
A- = 3.67
B+ = 3.33
B = 3.00
B- = 2.67
C+ = 2.33
C = 2.00
C- = 1.67
D = 1.00
F = 0.00
5. อักษร S แสดงว่าผลการศึกษาหรือการสอบเป็นที่พอใจอักษร U แสดงว่าผลการศึกษา
หรือการสอบยังไม่เป็นที่พอใจใช้สำหรับกระบวนวิชาที่กำหนดให้มีการประเมิน
ผลแบบไม่คิดค่าระดับคะแนนในกรณีที่ได้อักษร U จะต้องลงทะเบียนเรียนวิชานั้นซ้ำ
6. อักษร I แสดงว่า นักศึกษาไม่สามารถเข้ารับการวัดผลในกระบวนวิชานั้นให้สำเร็จ
สมบูรณ์ได้โดยมีหลักฐานแสดงว่ามีเหตุสุดวิสัย การให้อักษร I ต้องได้รับความ
เห็นชอบจากอาจารย์ผู้สอน นักศึกษาจะต้องขอรับการวัดและประเมินผลเพื่อแก้อักษร
I ภายในภาคการศึกษาถัดไปเมื่อพ้นกำหนดดังกล่าวมหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนอักษร
I เป็นอักษร F หรือ U
7. นักศึกษาต้องได้อักษรระดับคะแนนไม่ต่ำกว่า C- สำหรับกระบวนวิชาบังคับ
และ/หรือวิชาบังคับเลือก หากต่ำกว่าจะต้องลงทะเบียนเรียนในกระบวนวิชานั้นใหม่
หากเป็นกระบวนวิชาในหมวดวิชาเลือก นักศึกษาอาจลงทะเบียนเรียนกระบวนวิชา
อื่นแทนได้ กระบวนวิชาใดหากระบุการประเมินผลเป็นอักษร S หรือ U นักศึกษา
จะต้องได้อักษร S มิฉะนั้นจะต้องลงทะเบียนในกระบวนวิชานั้นใหม่
8. การนับหน่วยกิตสะสม
(8.1) กระบวนวิชาที่นักศึกษาได้อักษรระดับคะแนน A, A -, B +, B, B -,
C +,C และC -จึงจะนับหน่วยกิตของกระบวนวิชานั้นเป็นหน่วยกิตสะสม
เพื่อให้ครบตามที่หลักสูตรกำหนด
(8.2) มหาวิทยาลัยจะคำนวณแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมจากหน่วยกิตและค่าอักษร
ระดับคะแนนของกระบวนวิชาทั้งหมดที่นักศึกษาได้ลงทะเบียนเรียน
ยกเว้นกระบวนวิชาระดับปริญญาตรีหากกระบวนวิชาใดลงทะเบียนเรียนมากกว่า
1 ครั้งให้คิดทุกครั้ง
9. การคำนวณแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมให้นำเอาผลคูณของจำนวนหน่วยกิตกับค่า
อักษรระดับคะแนนทุกกระบวนวิชาตามข้อบังคับระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.2547
(ข้อ 26.16 มารวมกันแล้วหารด้วยผลบวกของหน่วยกิตของกระบวนวิชาทั้งหมด
นอกจากที่ระบุไว้ตามข้อบังคับระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.2547 (ข้อ 26.13)
ในการหารนี้ให้มีทศนิยม 2 ตำแหน่ง
10. การสอบประมวลความรู้เป็นการสอบข้อเขียน และ/หรือสอบปากเปล่า ทัั้งนี้
ผู้มีสิทธิสอบจะต้องสอบผ่านกระบวนวิชาครบถ้วนตามหลักสูตรแล้ว และมีคะแนน
เฉลี่ยสะสม ไม่น้อยกว่า 3.00 โดยให้สอบในภาคการศึกษาที่คาดว่าจะสำเร็จ
การศึกษา นักศึกษาซึ่งสอบไม่ผ่านมีสิทธิสอบแก้ตัวได้ 1 ครั้ง
11. การเสนอชื่อเพื่อรับปริญญาในภาคการศึกษาสุดท้ายที่นักศึกษาคาดว่าจะสำเร็จ
การศึกษาให้ยื่นคำร้องขอรับปริญญา ตามหลักเกณฑ์ที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนด
โดยมหาวิทยาลัยจะเสนอชื่อเพื่อขออนุมัติปริญญาบัตร ต่อสภามหาวิทยาลัยต่อเมื่อ
(11.1) สอบวิชาปรับพื้นฐานได้อักษร S
(11.2) ศึกษากระบวนวิชาครบตามหลักสูตร และเงื่อนไขของสาขาวิชานั้น
(11.3) มีผลการศึกษาได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 3.00
(11.4) สอบผ่านภาษาต่างประเทศหรือการเทียบระดับความรู้แทนภาษาต่างประเทศ
ตามเงื่อนไขที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนด
(11.5) ไม่มีหนี้ค้างชำระต่อมหาวิทยาลัย
(11.6) ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกลงโทษวินัยนักศึกษา |
|
|
|